มาดูกันว่ารายการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ในมอเตอร์สปอร์ตมีรูปแบบใดบ้าง

การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตเริ่มได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายจากผู้คนที่ชื่นชอบในกีฬาความเร็ว ซึ่งหนึ่งในประเภทการแข่งขันของมอเตอร์สปอร์ตก็คือการแข่งขันกันระหว่างผู้ที่ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเสน่ห์อย่างหนึ่งของการแข่งขันประเภทนี้นอกจากความสนุกสนาน ความเพลิดเพลิน ที่จะได้รับจากการลุ้นการเชียร์และการวางเดิมพันแล้ว ก็คือผู้ชมจะได้มีโอกาสเห็นนักแข่งที่ตนชื่นชม และกำลังเชียร์อยู่ได้อย่างชัดเจนขณะที่อยู่บนมอเตอร์ไซค์โดยไม่มีอะไรบดบังเหมือนอย่างกับตอนนั่นอยู่ในรถยนต์นั่นเอง เราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามอเตอร์สปอร์ตประเภทรถมอเตอร์ไซค์นั้นมีรายการแข่งขันรูปแบบใดบ้าง จะได้ตามชมตามเชียร์กันได้อย่างครบถ้วนทุก ๆ การแข่งขัน

1. World Superbike รายการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบที่บอกเลยว่าเน้นความเร็วเป็นสำคัญ เพราะรถที่จะใช้นำมาเข้าแข่งขันนั้นล้วนเป็นรถมอเตอร์ไซค์ประเภท SuperSport  ที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไปซึ่งมีสมรรถนะที่ค่อนข้างแรงและเร็วเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งนำมาปรับแต่งสมรรถนะเพิ่มเติมเข้าไปเพื่อให้รถมีความเร็วและแรงเพิ่มมากขึ้นด้วยแล้ว รับรองวิ่งฉิวอย่างกับจรวดแน่นอน อย่างไรก็ตามเครื่องยนต์สูงสุดที่จะสามารถใช้ได้ในการแข่งขันนี้อยู่ที่ประมาณ 750 และ 1,200 cc โดยการตัดสินผลการแข่งขัน จะตัดสินจากการแข่งขันจาก 2 รอบ หรือ 2 สนาม โดยให้นับจากเวลาในการแข่งขันที่ใช้ไปน้อยที่สุดในการแข่งขันแต่ละรอบ เรียกได้ว่าหากใครอยากเป็นผู้ชนะแล้วนอกจากจะต้องบิดให้สุดมือแล้ว เทคนิคในการวิ่งเข้าโค้งและวิ่งทางตรงมีเท่าไรก็ต้องขุดออกมาใช้ให้หมด เพื่อให้ตัวเองเป็นที่หนึ่งในการเข้าเส้นชัยให้ได้นั่นเอง

2. MotoGP รายการแข่งขันที่คล้ายกันกับรายการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ประเภท World Superbike เพราะเป็นรายการที่เน้นการตัดสินผลแพ้ชนะมาจากความเร็วของรถที่เข้าแข่งขันทั้งหมดนั่นเอง แต่จะต่างกันอยู่ซักหน่อยตรงที่การแข่งขันในรายการประเภทนี้นั้นจะนำเอา “รถต้นแบบ” ซึ่งเป็นรถที่ถูกออกแบบและสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการแข่งขันรายการนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นรถมอเตอร์ไซค์ในรายการนี้จะไม่มีขายตามท้องตลาดทั่วไปอย่างเช่นรายการอื่น ซึ่งจากความพิเศษนี้เองที่ทำให้รายการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้ได้รับความนิยมสูงเป็นอันดับต้น ๆ ตลอดมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

3. Endurance World Champion (EWC) รายการแข่งขันขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่สามารถเปลี่ยนตัวผู้เข้าแข่งขันได้ถึง 3 คน เนื่องจากเป็นการแข่งขันแบบมาราธอนที่มีระยะเวลาการแข่งขันนานสูงสุดทั้งแบบ 4 ชั่วโมง และ 8 ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะไม่สามารถเปลี่ยนได้ก็คือตัวรถที่ใช้ในการแข่งขันนั่นเอง ดังนั้นนอกจากสุขภาพร่างกายของนักแข่งที่จะต้องเตรียมตัวมาให้พร้อมทั้งพลังกายและพลังใจแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญที่สุดก็คงจะเป็นในด้านของการตรวจสอบสมรรถนะและคุณภาพของตัวรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ในการแข่งขันให้แน่ใจว่าได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากทีมช่างผู้ดูแลที่เชี่ยวชาญ ยิ่งเปลี่ยนคันไม่ได้ด้วยแล้ว ยิ่งต้องมีการเช็คกันให้ละเอียดที่สุด เพราะหากพลาดเพียงนิดเดียวอาจไม่ได้หมายถึงการเสียโอกาสของทีมที่จะได้เป็นผู้ชนะ แต่อาจหมายถึงความปลอดภัยของนักแข่งด้วยนั่นเอง

สุดท้ายนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้อ่านจะได้รับความรู้จากบทความนี้ไม่มากก็น้อย หรืออย่างน้อย ๆ หากท่านสามารถนำเอาข้อมูลจากบทความนี้ไปประกอบการตัดสินใจในการที่จะเลือกดูรายการแข่งขันและการเลือกวางเดิมพันกับการแข่งสปอร์ตที่ท่านชื่นชอบก็คงจะดีไม่น้อย