ว่ากันว่านักขับมือดี คือคนที่ขับได้ดีบนถนนที่เปียก

อยากเป็นปรมาจารย์ด้านการขับบนถนนเปียกต้องอ่านคำแนะนำต่อไปนี้ นักกีฬาแข่งรถมืออาชีพและมือสมัครเล่นต่างรู้กันดีว่าพื้นถนนที่เปียกนั้นทำให้การควบคุมรถยากกว่าพื้นแห้ง แต่หากทำเวลาได้ดีและทำให้ตัวเองช่ำชองในสนามเปียกแล้ว การจะก้าวไปเป็นสุดยอดนักขับบนถนนแห้งก็ไม่ยากเย็นอะไร มีนักกีฬาไม่กี่คนเท่านั้นที่ขับได้เร็วและขับได้ดีบนถนนเปียก แต่นี่แหละที่จะทำให้เขาฉายแววสุดยอดนักขับออกมาให้โดดเด่นกว่าใครที่นักพนันเช่นคุณต้องจับตาเขาไว้

3 เคล็ดลับที่จะทำให้คุณโจนทะยานไปบนสนามแข่งที่เปียกชื้นได้อย่างสง่างาม

สาระน่ารู้เกี่ยวกับเคล็ดลับทั้ง 3 อย่างนี้จะช่วยเปิดโลกการเดิมพัน เพื่อหาสุดยอดนักแข่งรถให้คุณได้

  1. ค้นหาเส้นทางการขับที่ดีที่สุด บนพื้นที่เปียกนั้น ยางรถแข่งจะลื่นกว่ายางรถทั่วไปเสียด้วยซ้ำ แม้ว่าจะเลือกใช้ยางที่กัดดอกมาแล้วก็ตาม การขับบนพื้นลื่นจะทำความเร็วได้ยาก นักกีฬาแข่งรถที่ฉลาดจึงต้องมองแนวทางที่ถนนแห้งที่สุดเพื่อขับผ่านเส้นทางนั้น วิธีที่น่าสนใจคือ วิ่งตามเส้นทางที่รถคันหน้าคุณขับไปนั่นแหละ ล้อรถที่รีดน้ำบนถนนออกไปจากการขับผ่านจะทำให้พื้นส่วนนั้นแห้งกว่าส่วนอื่น
  2. ใช้คันเร่งช่วยในการเลี้ยวรถ การเลี้ยวที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้คุณทำเวลาในการแข่งได้ดีขึ้น นักขับส่วนมากจะระวังช่วงทางโค้งเป็นพิเศษ ทำให้สถิติช้ากว่าการขับบนพื้นแห้ง แต่คุณลองใช้คันเร่งช่วยในขณะเข้าโค้งสิ เมื่อจับโค้งได้แล้วลองอัดคันเร่งเล็กน้อยเพื่อให้เกิดแรงผลักไปด้านหน้าขณะเข้าโค้งรถจะพุ่งไปตามทิศทางข้างหน้าในความเร็วที่มากกว่าการประคองรถให้ผ่านโค้งไป คุณจะลดเวลาในการขับลงได้ทุกโค้งหากใช้เทคนิคนี้
  3. ใช้ขอบถนนช่วยดูสิ เทคนิคนี้ก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ใช้การเพิ่มการยึดเกาะถนน และหลาย ๆ คนเคยเห็นนักแข่งรถใช้วิธีนี้มาบ้างแล้ว วิธีการคือการขับให้ขอบล้อด้านในเกี่ยวกับขอบด้านในของโค้ง ใช้กับโค้งความเร็วปานกลางหรือความเร็วต่ำ เพื่อให้ขอบถนนช่วยยึดเกาะรถคุณและเหวี่ยงไปตามแนวทางโค้งถนน หากเป็นโค้งความเร็วต่ำจะใช้การวิ่งตัดโค้งให้เป็นทางตรงมากที่สุดเพื่อประหยัดเวลา

ท่องให้ขึ้นใจ จำไว้ให้มั่น ลองเอาไปฝึกใช้จนเกิดความเคยชิน

การควบคุมให้รถแข่งสามารถวิ่งบนพื้นสนามแข่งที่เปียกได้เร็วเท่าเดิมหรือใกล้เคียงกับความเร็วของรถที่วิ่งบนพื้นสนามแข่งที่แห้ง เป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถของนักกีฬาแข่งรถมานาน แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับการฝึกใช้บ่อย ๆ จนเคยชินหรอก 3 เคล็ดลับนี้หากใช้จนมันเป็นเรื่องปกติเส้นทางการก้าวสู่การเป็นสุดยอดนักแข่งรถก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงอีกต่อไป