อยากเป็นนักกีฬาแข่งรถ ไม่ใช่เพียงแค่ขับรถเป็น ขับรถเร็ว

กีฬาแข่งรถ หากใครไม่ได้อยู่ในวงการอาจคิดว่าก็เพียงแค่ขับรถเร็วก็น่าจะเป็นนักกีฬาแข่งรถได้แล้ว จริง ๆ แล้วกีฬาประเภทนี้เป็นกีฬาที่นักกีฬาต้องมีวินัยในการฝึกซ้อมสูงมาก เพราะต้องใช้สมาธิในการฝึกสูง แม้ว่าจะขับรถเร็วก็จริง แต่เชื่อไหมว่าเวลาที่ทำได้ก็ไม่เท่ากัน ขึ้นกับสมาธิในการขับแต่ละครั้งเป็นสำคัญเลยจริง ๆ ยิ่งการขับเพื่อแข่งขันก็ยิ่งต้องใช้สมาธิสูงกว่าการฝึกซ้อม หากนักกีฬาไม่ได้ฝึกมาอย่างเข้มงวด จริงจัง สม่ำเสมอ การรักษาเวลาในการขับแข่งขันแต่ละครั้งแทบจะกำหนดให้คงที่ไม่ได้เลยทีเดียว ดังนั้นหากใครที่อยากเป็นนักกีฬาแข่งรถ จึงไม่ใช่เพียงแค่คนที่ขับรถเป็นหรือขับรถเร็วเท่านั้น แต่ต้องมีความมุ่งมั่นในการฝึกฝนตนเองอย่างจริงจังด้วย และนี่ยังเป็นทริกสำหรับนักเดิมพันกีฬานี้ด้วย ไม่ใช่ดูแค่ฟอร์มในสนาม ต้องดูวินัยการฝึกซ้อมของนักแข่งคนนั้น ๆ ด้วย ใครซ้อมดีโอกาสชนะให้คุณรับเงินรางวัล ก็มีสูงกว่า

เตรียมตัวอย่างไร จึงจะเข้ามาเป็นหนึ่งในนักแข่งรถมืออาชีพได้

  1. ออกกำลังเพื่อเตรียมความพร้อมร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหรือการเข้าห้องฟิตเนส นักแข่งรถที่ต้องขับรถด้วยความเร็วสูง ๆ จำเป็นต้องมีร่างกายที่แข็งแรง เพราะในขณะที่รถเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงจะเกิดแรงเหวี่ยงขนาดมหาศาลกระทำต่อตัวผู้ขับเอง หากร่างกายไม่ได้รับการฝึกฝนมาให้ทนทานต่อแรงนี้ได้ โอกาสที่จะควบคุมรถไม่อยู่เป็นไปได้สูงมาก แต่การฟิตร่างกายนั้นต้องไม่เน้นส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นพิเศษ ความแข็งแกร่งของร่างกายทุกส่วนจะมีประโยชน์กับการขับรถมากกว่า
  2. ฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่เพียงแค่ชอบขับรถเร็ว แต่การขับอย่างสม่ำเสมอเป็นการฝึกทักษะที่สำคัญที่สุด ทักษะการขับรถยิ่งมีการฝึกมากเท่าไหร่ ร่างกายก็จะยิ่งจดจำสภาพการขับได้ดีเท่านั้น นักขับที่ดีต้องมีวินัยในการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
  3. มีมารยาทในการขับขี่ นักขับที่ดีไม่ใช่ผู้ที่ขับเร็วอยู่เป็นประจำ แต่เป็นผู้ที่รู้กาลเทศะ เมื่อขับขี่ในที่ชุมชนหรือถนนสาธารณะก็จะรักษากฎจราจรอย่างดีเยี่ยม แต่จะแสดงความสามารถในการขับขี่อย่างดีที่สุดเมื่ออยู่ในสนามแข่งรถเท่านั้น

ต้องฝึกซ้อมนานแค่ไหน กว่าจะได้เข้าไปเป็นนักแข่งรถมืออาชีพและได้ลงสนามแข่งขันจริง ๆ

สำหรับผู้ที่มีการฝึกฝนมาอย่างหนักและต่อเนื่องแล้ว ใช้เวลาไม่นานที่จะก้าวมาเป็นนักกีฬาแข่งรถมืออาชีพ อาจไม่เกินปี หรืออย่างช้าก็ราว ๆ 2 – 3 ปี ขึ้นอยู่กับผลงานในการขับ ผลงานในการขับจะต้องมีความคงที่ หมายความว่ามีสถิติในการขับขี่ที่ใกล้เคียงกันในทุก ๆ สนาม ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าตัวนักขับนั้นมีการฝึกฝนมาเป็นอย่างมี มีมาตรฐานในการขับสูง ก็จะสามารถขึ้นสู่มืออาชีพในการแข่งรถได้เร็ว มีนักแข่งรถจำนวนไม่น้อยที่เทิร์นโปรแล้วก็ลดความเข้มงวดในการฝึกซ้อมลง ซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่ควร เพราะยิ่งคุณได้เป็นมืออาชีพแล้ว การฝึกซ้อมของคุณก็ควรจะยิ่งเข้มข้นกว่าเดิม ไม่เช่นนั้นผลงานของคุณก็ไม่มีการพัฒนาแน่นอน